เห็นหลายคนมีความสนใจจะเริ่ม “รับจ้างเขียนเว็บ” ธุรกิจด้านการทำเว็บไซต์จริงๆ จังๆ
บางคนกำลังจะเริ่ม แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี จะหาลูกค้ายังไง? จะเก็บตังค์ยังไง? ถ้าทำงานพลาดจะเกิดอะไรขึ้น รับผิดชอบยังไง?
บางคนก็ยังชั่งใจอยู่ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำดี
ก็เลยอยากจะมาเขียน Blog แนะนำ ถึงข้อดี-ข้อเสีย ประกอบการตัดสินใจ และวิธีการเตรียมตัวครับ
คาดว่าประสบการณ์ 5 ปี ++ ของผม น่าจะมีประโยชน์กับทุกคน ไม่มากก็น้อยนะครับ 🙂
ธุรกิจรับทำเว็บไซต์ หรือ รับเขียนโปรแกรม น่าทำไหม?
ตอบสั้นๆ: น่าทำครับ
ตอบยาวๆ: น่าทำครับ แต่ถ้าจะให้ดี ก็ออกแบบธุรกิจให้มันดี จะได้ทำงานสบาย ไม่หนักเกินไป ได้ค่าแรงที่เหมาะสม และที่สำคัญ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ราคาค่าแรงจะได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่ต้องตัดราคาลงไปเล่นตลาดล่างเหมือนชาวบ้านเขาครับ
หนึ่งในไอดอลของผมเรื่องการจัดการชีวิตและเรื่องการรับทำเว็บไซต์ ก็คงหนีไม่พ้น พี่เม่น mennstudio ครับ ซึ่งหน้าแรกของเว็บไซต์ของแกเขียนชัดมากดังนี้:
เม่น สตูดิโอ รับงานสร้างเว็บไซต์ทั้งในขนาดกลางและเล็ก (4-8 หมื่นบาท – รับงานไม่เกินเดือนละ 2 งาน) และขนาดใหญ่ (2 แสนบาทขึ้นไป – รับทีละงาน) ประชุมงานออนไลน์และดูแลงานเองตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้สามารถสร้างงานที่ดีที่สุด ในงบประมาณที่คุ้มค่าที่สุด ให้กับลูกค้าของเราได้
พี่เขาออกแบบชีวิตตัวเองเสร็จแล้ว และทั้งหมดนี้เป็น Deal ที่ลูกค้าต้องยอมรับให้ได้ ก่อนที่จะจ้างพี่เขาครับ ซึ่งองค์ประกอบคร่าวๆ ประกอบด้วย
- ประชุมงานออนไลน์ ก็คือ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ขอคุยงานผ่านเมล์ โทรศัพท์ ไม่ก็ Skype เท่านั้น ขี้เกียจเดินทาง
- Location-Free: บ้านอยู่ปาย ขี้เกียจมาสูดอากาศควันโขมงในกรุงเทพฯ ก็เลยขอทำงานที่นั่นเท่านั้น
- ไม่รับงานเกินตัว ขีดเส้น Deadline เพื่อให้ตัวเองไม่เครียดเกินไป และเพื่อให้งานออกมาดี รวมถึงจะได้สามารถตั้งราคาได้เหมาะสมด้วย
แปลว่า เบื้องต้นแล้ว หากเราออกแบบชีวิต ขีดเส้นมาทางนี้แล้ว เราก็จะสามารถหาเงินได้ 4-8 หมื่นบาทต่อเดือน เป็นขั้นต่ำ (ผมไม่เชื่อว่าเราจะปฏิเสธงานเล็กๆ น้อยๆ ประเภททำ 3 วันเสร็จ หรืองานประเภท Consult สบายๆ ให้คำปรึกษาแล้วรับเงิน หากโอกาสมันผ่านเข้ามา)
บางเดือนทำงานใหญ่ ได้ 2-3 แสน ++
นานๆ ที รับ Project ใหญ่ครึ่งปี 8 แสนหรือล้านบาทขึ้น (คนที่รับโปรเจคขนาดนี้ได้ ส่วนใหญ่จะต้องมี Connection หรือ เป็นเจ้าของบริษัท และมีความน่าเชื่อถือมากพอตัวแล้วครับ)
โอเค ขายฝันเสร็จแล้วหรือยัง? นั่นพี่เขาทำมานานแล้ว เป็นมืออาชีพแล้ว เราเพิ่งเริ่มต้น ลูกค้ายังไม่มีสักคน จะทำยังไง?
ปฏิเสธไม่ได้ครับ ว่าถ้าเพิ่งเริ่มทำ ยิ่งเป็นงานแรก เราคงคิดแพงมากไม่ได้แน่นอน
แถมเลือกลูกค้าไม่ได้ด้วยครับ ใครมาก็ต้องรับไว้ก่อน เรื่องมากไม่ได้
แนะนำให้เริ่มจากคนใกล้ตัวครับ บอกทุกคนให้หมดว่าเรารับทำเว็บไซต์ แจกนามบัตร แจกเว็บไซต์ ไล่พิมพ์บอกทุกคนใน Facebook และ LINE ว่าถ้ามีใครอยากทำเว็บไซต์ มาทำกับเรานะ!
ที่อยากให้จำไว้ข้อนึงเลย ก็คือ อย่ากลัวที่จะเริ่ม ครับ 🙂
ผมอยากย้ำมากๆ คือพวกมือใหม่เป็นอะไรกันไม่รู้จริงๆ กลัวที่จะเริ่มกัน ไม่กล้าทำ สุดท้ายไม่ได้ทำสักที เชื่อผมเหอะครับ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องกลัวทำงานพลาด ไม่ต้องกลัวพูดไม่เก่ง หลับหูหลับตาชนไปเลย เดี๋ยวทุกอย่างมันจะพัดคุณลอยไปเอง ขอแค่หาลูกค้าคนแรกให้ได้ก็พอ คนที่สอง คนที่สาม มันจะมาเอง ของแบบนี้มันต้องมี Momentum ครับ ขอแค่มีก้าวแรก ก้าวสองสามสี่ ก้าวที่ร้อย อยู่ไม่ไกลครับ
แล้วก็ เพื่อความง่ายของชีวิต… แนะนำให้ คิดค่าแรงเป็นรายชั่วโมง เหมือนที่พี่เม่นเคยบอกไว้ครับ มันจะแฟร์กับทั้งลูกค้าและเราด้วย
ตอนนี้ Manhour Rate ของผมอยู่ที่ชั่วโมงละ 1,000 บาท ครับ (มีแพลนจะอัพขึ้นอีกในปีนี้ ยอมรับว่าขึ้นช้าเหมือนกัน)
ก่อนหน้านี้ ตอนที่เพิ่งเริ่มทำ คิด ชั่วโมงละ 700.- น่าจะเป็นราคาที่ดีสำหรับทุกคน
ถ้าไม่มั่นใจจะลดเหลือ ชั่วโมงละ 500.- ก่อนก็ได้ครับ แต่ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้ลงต่ำกว่านั้น เพราะมันจะถูกเกินไป และตลาดจะเสียครับ ถือเป็นการตัดราคาชาวบ้านเกินเหตุ ทำให้วงการนี้มันน่าอยู่กันเถอะนะครับ 🙂
แล้วค่อยๆ อัพครับ ตามความมั่นใจของเราเป็นหลัก อย่าแช่ราคาเดิมนานเกินครับ
จนสุดท้ายแล้ว ราคา Manhour ตรงนี้มันจะขึ้นตามชั่วโมงบิน ความโปรฯ และความมั่นใจของเรา ถ้าคุณเก่งจริง สุดท้ายแล้วคิดค่า Consult ชั่วโมงละ 5 พัน ก็มีคนซื้อครับ 🙂
(ในตลาดมีจริงๆ ครับ บางคนแพงกว่านั้นเยอะก็มีครับ)
ใช้เวลานานเท่าไร กว่าเราจะไปถึงขั้นที่ “เลือกลูกค้าได้” ?
สมมติว่าถ้าเป็นคนที่เรียนรู้เร็วมาก ทำงานได้ดี ผมว่าไม่พ้น 6 เดือนก็น่าจะเริ่มปฏิเสธลูกค้าที่ไม่อยากรับได้แล้วครับ ใครกดราคามากๆ พยายามจะทำลายตลาด เราก็ปฏิเสธแบบสุภาพไป ใครที่เรียนรู้ไม่เร็ว หรือไม่ได้ทำเป็นงานหลัก ทำเป็นงานเสริม ก็อาจจะใช้เวลา 1-2 ปีครับ Momentum ถึงจะเริ่มอยู่ตัว 🙂
นอกจากรับงานแล้ว เราเอาทักษะการเขียนเว็บหรือโปรแกรม ไปต่อยอดทำอะไรได้อีก?
เยอะแยะครับ ใช่ว่าจะต้องรับงาน รับลูกค้าอย่างเดียวเสมอไป หลายคนใช้ความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งผันตัวไปทำ Startup เยอะแยะครับ เขียนไอเดีย ไปเสนอนักลงทุน ขอทุน ทำแอพพลิเคชั่น ทำเกมขาย ตั้งบริษัทกันเป็นจริงเป็นจัง
หรือถ้าวันหนึ่งเบื่อเขียนโปรแกรมแล้ว ก็เปิดร้านขายของออนไลน์ เขียนระบบ E-Commerce ซะเลยไงครับ Cost หายไปเลยเป็นแสน เหลือแค่ Man-hour ของเราแค่นั้นเอง 🙂 สุดยอดไปเรย (จำคำผมไว้ครับ แล้ววันนึงจะรู้ การเปิดร้านขายของออนไลน์เอง โดยที่เราสามารถควบคุมทุกอย่างที่เป็น Technical ได้ นี่มันรู้สึกดีขนาดไหน)
ขอให้สนุกกับการเรียนในคอร์สนะครับ สำหรับใครที่สนใจคอร์ส Front-End Warrior ของ NERD INFINITY อยู่ ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดราคาถึงวันที่ 20 มิถุนายนนี้ รีบกันหน่อยนะครับ เดี๋ยวหมด อดเลยนะ อิอิ
สวัสดีครับ ^_^