รวยได้ไหม? จากการรับจ้างทำเว็บไซต์

รับจ้างทำเว็บไซต์ รวยได้ไหม?

ตอบสั้นๆ ก็คือ “รวยได้ครับ”

แต่อยากจะบอกว่า จริงๆ แล้ว การรับจ้างทำเว็บไซต์ มันก็ธุรกิจๆ หนึ่ง… ซึ่งไม่ต่างกับธุรกิจอื่นๆ
เปรียบเทียบกับการเปิดร้านกาแฟ ถ้าบริหารไม่ดี ใช้วัตถุดิบไม่ดี ทำเลผิดที่ ปล่อยให้ลูกน้องขโมยของบ่อยเกินไป ขายถูกเกินไป ขายแพงเกินไป

มันก็ไปไม่รอดครับ…

โชคดีตรงที่ธุรกิจประเภท Service หรือ รับเงินเป็นค่าแรงบริการ อย่างรับทำเว็บไซต์นี่ ต้นทุนด้านการจัดการวัตถุดิบมันไม่มี …

ที่จริงมันมีแหละ แต่มันไม่เหมือนกับการเปิดร้านขายสินค้าบางอย่าง ที่มีต้นทุนจัดการสต็อกสูงมาก มี Fixed Cost เป็นการจ้างพนักงานต่อเดือนที่สูง เราก็ต้องยอมรับว่าต้นทุนเราไม่เยอะเหมือนเขา

เพราะต้นทุนเราคือ “ทักษะ” ที่อยู่ในสมองเรานี่เอง 🙂 ฝรั่งเรียกมันว่า Intellectual Property ทรัพย์สินทางปัญญาครับ

ซึ่งมันจะไปหายไปไหน จนกว่าสมองเราจะหลุดออกไปจากตัว … ม่องเท่งนั่นเอง ถถถถ

 

แต่มันก็คือต้นทุนครับ แถมไม่ได้หาง่าย…

เวลาที่ได้ยินใครบอกว่า “โห รับทำเว็บไซต์นี่ดีนะ ไม่มีต้นทุนอะไรเลย ใช้แค่คอมกับลงแรงอย่าคิดแพงสิ”

เวลาได้ยินแบบนี้ ผมอยากกระโดดเอาไข่แปะหน้าคนพูดทุกครั้งเลยครับ -“-

 

อย่าลืมต้นทุนที่เป็นค่าไฟ ค่าคอมพิวเตอร์ ค่าโปรแกรมลิขสิทธิ์ (เป็นหมื่นนะครัฟ)

และที่สำคัญ “ค่าความรู้” ครับ เวลาที่เราเสียไปกับการที่ต้องศึกษาหาความรู้ ต้องตามข่าว อัพเดทเวอร์ชั่นโค้ดอยู่เสมอๆ (เวลาเปลี่ยน -> Version เปลี่ยน -> Code เปลี่ยนนะครับ เราต้องคอยตามข่าวตลอด)

ถ้ามีคนถามคำถามแบบนั้นกับเรา Counter Question ได้ง่ายๆ เลยครับ ด้วยประโยคที่ว่า “ก็ลองทำเองไหมล่ะ?”

ถ้ามัน “ไม่เห็นจะมีอะไรมาก” ก็ลองทำเองดูเลยครับ จะได้รู้ ว่าจริงๆ มันเป็นยังไง 5555

 

นอกเรื่องมาซะนาน ขออภัยครับ กลับเข้าเรื่องกันต่อ 🙂

ธุรกิจการทำเว็บไซต์ที่ดี ก็เหมือนธุรกิจอื่นๆ ที่ดีครับ ต้องมีการบริหารจัดการ Resource ที่ดี ขายให้ได้กำไร โปรโมตให้ดี อย่าให้มีช่วง Dead Air นานเกินไป (เว้นแต่ว่าอยากหนีไปพักผ่อนต่างจังหวัดสักเดือนสองเดือน)

เรามาดู Resource และต้นทุนที่เราต้องเสียไปในแต่ละเดือนกันบ้างดีกว่าครับ เสร็จแล้วเราก็มาดูกันว่า จะทำให้มันมีกำไรเยอะๆ ได้อย่างไร

  • ค่าดำรงชีพพื้นฐาน – ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าครองชีพ ต้องจ่ายทุกเดือน
  • ภาระ – ใครมีเมีย มีลูกต้องเลี้ยง ใครต้องผ่านบ้านผ่อนรถ รวมไปเลยครับ … ใครบอกว่าเรื่องธุรกิจกับเรื่องส่วนตัวมันคนละเรื่องกัน ผมไม่เคยเชื่อเลยครับ มันคือรายได้ที่เราอยากได้ครับ ก็ถ้าเราต้องใช้ ก็บวกไปเลยครับ ชาวร็อคซะอย่าง กลัวไรครับ
  • ค่าโปรแกรมลิขสิทธิ์ –  Adobe CS6 ที่ซื้อๆ กันเป็นพันเป็นหมื่นครับ ใครว่ามันถูก .. Adobe CC จ่ายรายเดือนนะครับ จ่ายทุกเดือน ใช้เยอะก็จ่ายเยอะ นับดูว่ากี่ตัว เสียไปเท่าไร บวกไปด้วยครับ
  • ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ – Laptop มันไม่ได้ซื้อเครื่องเดียวแล้วใช้ตลอดชีพนะครับ อายุการใช้งานมันแค่ 3-5 ปีเท่านั้นแหละ ก็ต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว ยิ่งเราใช้งานหนักด้วย อยู่กับมันทุกวัน มันก็เสื่อมอายุไปทุกวัน บวกไปด้วยครับ
  • สำคัญที่สุด ค่าแรงครับ – จะรวยไม่รวย จะแตกไม่แตก วัดกันตรงนี้ครับ คุณรักตัวเองมากแค่ไหน คุณพัฒนาตัวเองมาถึงขั้นที่จะเก็บค่าแรง “แพง” ได้หรือยัง?

 

ทำอย่างไรถึงจะเก็บค่าแรงแพงๆ ได้?

อยากให้จำไว้แค่ 2 อย่างนี้ก็พอครับ: รู้ให้ลึก และ รู้ให้รอบ ครับ

 

รู้ให้ลึก – ถ้าเราเป็น Front-End Developer ออกแบบหน้าเว็บไซต์ เขียน HTML/CSS/Javascript เป็นหลัก เราต้องรู้ลึกจนกระทั่งเถียงสู้ชาวบ้านได้ครับ ข่าวเราต้องตามไม่หยุด เทคโนโลยีใหม่ๆ เราห้ามขาดครับ ต้องตามให้ทัน เราต้องมีเทคโนโลยีที่เป็นท่าไม้ตายของเราเสมอ และไปให้สุด

เช่น ถ้าคุณเลือกที่จะเก่งเรื่องการทำ Web Application ก็อ่านทุกอย่างที่เกี่ยวข้องให้หมดครับ LESS/SASS เขียนให้เป็น หัดใช้ Grunt/Gulp หัดเขียน ReactJS/AngularJS ให้เป็น ต้องรู้มากกว่าคนอื่นครับ อย่าหยุดเรียนรู้เด็ดขาด

 

รู้ให้รอบ – ผมเรียกมันว่า Soft Skill ครับ ลำพังแล้ว รู้ลึก อย่างเดียวไม่เพียงพอครับ

สมมติว่าเราอาจจะเป็นนักเขียน JavaScript ที่เก่งที่สุดในโลก แต่ถ้าเราเจรจาขายค่าแรงไม่เป็น ก็จบนะครับ สุดท้ายมันจะกลายเป็นว่า เราแม่งเก่งชิบหายเลย แต่คิดราคาค่าแรงแค่ 400 บาท / ชั่วโมง เพราะไม่มีทักษะ หรือ ไม่กล้าที่จะไปต่อรองอะไรกับใคร

ถ้าไม่มี Soft Skill วันหนึ่งอาจโดนตีหัวด้วย Developer ที่ประสบการณ์น้อยกว่า แต่คิดค่าแรงแพงกว่าเราก็ได้นะครับ 🙂

นอกจาก Soft Skill จะหมายถึงความสามารถในการ “ขาย” แล้วอาจหมายถึงความสามารถเรื่องอื่นๆ ในเชิงเทคนิคด้วยนะครับ เช่น สมมติว่าหัดเขียน Laravel เป็นแล้ว คล่องแล้ว แต่ปฏิเสธที่จะเรียนรู้ทักษะ System Admin เบื้องต้น … เขียนเว็บเสร็จแล้ว Deploy App บน VPS ไม่ได้ ใช้ Linux ไม่เป็นอ่ะ… ssh คืออะไร? แบบนี้ก็อาจตายได้นะครับ ระวังไว้ด้วย

 

สุดท้ายนี้ อยากฝากว่า อย่าหยุดศึกษาครับ ติดตามข่าวเยอะๆ อย่าให้ขาด ที่ NERD INFINITY นี่แหละ อัพข่าวตลอด ทั้งเรื่อง technical และ business ไม่ตกเทรนด์แน่นอน :p

สำหรับวันนี้ สวัสดีแคร้ฟ

เว็บไซต์ BCD Academy ใช้เทคโนโลยี cookie เพื่อใช้จดจำการเข้าสู่ระบบของท่าน และเพื่อเสนอข้อมูลที่ท่านต้องการ กรุณากดปุ่ม "ยอมรับ" เพื่อยอมรับการใช้ cookie